วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

Le Corbusier ต้นแบบสถาปนิกในยุค modern



Le Corbusier เป็นสถาปนิก นักผังเมือง มัณฑนากร จิตรกร และนักเขียนชาวฝรั่งเศส(เดิมเป็นชาวสวิส แต่แปลงสัญชาติตอนอายุ 30กว่าๆ) และเป็นสถาปนิกที่เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมmodern แนวความคิดในการออกแบบของเขายึดถือความคิดเกี่ยวกับรูปทรงอย่างเดียว พร้อมกับคำพูดของเขาที่ว่า " a house is a machine for living in"หมายความว่า บ้านพักอาศัยควรสนองประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง เขามองเห็นว่า บ้านนั้นเป็นผลิตผลของผู้บริโภคเหมือนกับรถยนต์ ซึ่งผลิตชิ้นส่วนออกมาจากโรงงาน และด้วยการผลิตทางอุตสาหกรรมนี้ บ้านก็ควรมีชิ้นส่วนที่ผลิตออกมาจากโรงงาน และหลักการนี้ก็เข้าครอบงำสถาปนิกตั้งแต่นั้นมา
            ความจริงแล้ว Corbusierได้แรงบันดาลใจจากภาพจำลองของเครื่องจักรและอาศัยสิ่งเหล่านี้ไปสร้างสรรค์กระบวนแบบใหม่ๆ ซึ่งไม่มีการเกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม บ้านของเขาก็ดูคล้ายๆเครื่องจักร แต่ละส่วนแสดงออกมาชัดแจ้งเหมือนชิ้นส่วนของเครื่องจักร บ้านที่เรารู้จักกันดีคือ Villa Savoye ซึ่งถูกเปรียบเทียบกับเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งอยู่บนภูมิทัศน์ที่เกี่ยวเนื่องกับคติทางคลาสสิกและยุคเครื่องจักรกล Corbusierเป็นผู้สนับสนุนความคิดแบบอนาคตนิยม โดยการแสดงออกให้เห็นสังคมใหม่แทนที่จะให้สถาปัตยกรรมเป็นผู้กำหนดโลกใหม่ เขากลับมีความต้องการที่จะออกแบบสังคมใหม่ด้วยจินตนาการของเขาเอง

                                                       
                                                     Villa Savoye นอกกรุงปารีส


                                                   
                                                     บันได วนภายใน  Villa Savoye


                                                     Le corbusier กับโมเดลจำลอง

  Corbusier ออกแบบ villa savoye ให้สะท้อนถึงทิศทางของดวงอาทิตย์ โดยชั้นล่าง(พื้นดิน)ออกแบบเป็นโถงทางเข้า บันไดทางลาด โรงจอดรถ และห้องพักของคนขับรถและแม่บ้าน ส่วนชั้นหนึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องนอนลูกชายและห้องนอนแขก ห้องครัว โถงรับแขก และลานระเบียงภายนอก




ส่วนห้องนอนอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห้องครัวอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนชั้นสองจะเป็นที่ว่างไว้สำหรับอาบแดด
ลักษณะสถาปัตยกรรม 5 ประการ(five points of modern architecture)ของ Le Corbusier
1.ยกพื้นสูง ลอยตัว มีลักษณะเบา
2.จัดแผนผังพื้นที่ใช้สอยอิสระ (free plan) เพราะใช้ผนังลอยได้
3.ใช้ roof garden มีfunction เป็นระเบียง สวน ดาดฟ้า เนื่องจากเป็น flat roof
4.free facade ผนังด้านนอกไม่จำเป็นต้องรับนำ้หนัก
5.ใช้ ribbon window ช่องเจาะยาวแนวนอนได้
            Corbusier ได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการของเขา หลังสงความเขาทิ้งความตั้งใจที่ชอบผลิตผลของเครื่องจักรที่มีพื้นผิวที่เรียบลื่น และหันไปชอบกระบวนการแบบใหม่ซึ่งเขาเรียกว่า brutism คือ ความหยาบของผิววัสดุ เมื่อเป็นเช่นนี้จะเห็นว่าเขามักทำโครงสร้างแบบคอนกรีตเปลือย และเขาเห็นว่า อาคารนั้นไม่เหมาะกับคน แต่ควรทำให้คนเหมาะกับอาคารจึงกำหนดสัดส่วนของอาคารให้เหมาะสมแทน
ที่มา: http://baiplu-httpwwwbloggercom.blogspot.com/2011/12/le-corbusier-modern.html



ที่มา: http://www.youtube.com/watch?v=elvsHY3f3xg&feature=player_embedded#!

สถาปัตยกรรมในอนาคต




   ในฐานะที่เป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ได้ดำเนินการตามการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เราเห็นทำให้เข้าใจง่ายของรูปแบบเส้นที่ชัดเจนและน้อยของ embellishments ไม่มี ตอนนี้กำลังมองหาที่โครงการของการออกแบบสถาปัตยกรรมในอนาคตเราจะได้เห็นวิธีการที่สถาปัตยกรรมสมัยใหม่มีการพัฒนาในรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย
    สำรวจคุณสมบัติของวัสดุและรูปแบบการเล่นมุมแรงโน้มถ่วงและโครงสร้างที่ทันสมัย​​สถาปนิกโครงการอาคารที่สวยงามอย่างที่โลกยังไม่ได้เห็นมาก่อน ความเรียบง่ายของการออกแบบที่ทันสมัย​​จะไปอยู่เบื้องหลังเป็นรูปแบบที่ซับซ้อนใหม่รวบรวมข้อมูลในการออกแบบของสถาปนิกมีความทะเยอทะยานที่ทันสมัย
     แรงบันดาลใจจากสิ่งใหม่ ๆ และบางครั้งคนที่เรียบง่ายรอบตัวเราแม้สถาปนิกที่ทันสมัย​​เกิดขึ้นกับโครงการของอาคารขนาดใหญ่ในรูปแบบของดวงตาของแมลงปอ, เก้าอี้ยักษ์ร่างกายของเปลวไฟ ฯลฯ ดังนั้นได้รับประสบการณ์แนวคิดใหม่ของสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย




ที่มา : http://talk.mthai.com/topic/311431

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

สถาปัตยกรรมสีเขียวยุคอนาคต

“สถาปัตยกรรมสีเขียว” (Green Architecture) หรือ “ดีไซน์สีเขียว” (Green Design) คือการก่อสร้างอาคารที่มีจุดประสงค์เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ผ่านการเลือกใช้วัสดุและวิธีการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

        “Green”, “Ecology”, and “Sustainable” ถูกใช้โดยนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่อมาเมื่อสถาปัตยกรรมได้ให้ความสนใจในความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คำเหล่านี้จึงถูกนำมารวมกับสถาปัตยกรรม โดยให้ความหมายที่สื่อถึง งานสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อมและเป็นสถาปัตยกรรมที่มีออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของ ธรรมชาติ สถาปัตยกรรมในแนวความคิดนี้มีเป้าหมายในการออกแบบที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวด ล้อมน้อยที่สุดและสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ มีผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ความหมายเชิงลึกของคำเหล่านี้เกี่ยวพันไปถึงเรื่องที่สถาปนิกจะทำได้เพื่อ การรักษาเยียวยา รวมไปถึงการขยาย สืบต่อ หรือทำให้โลกสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงและคงอยู่เพื่อมนุษยชาติในรุ่นต่อๆ ไป

พีระมิด ชิมิสุ เมกะ-ซิตี้ ยังคงเป็นเพียงจินตนาการ เนื่องจากต้องพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่มีน้ำหนักเบาให้ได้ก่อน อย่างไรก็ตาม สถาปนิกวางแผนจะสร้างตึกระฟ้าภายในพีระมิดแห่งนี้ ซึ่งจะลอยอยู่ภายในอ่าว โตเกียว

ลอนดอน บริดจ์ ทาวเวอร์ หรือ "เดอะชาร์ด" ความสูง 1,000 ฟุต จะสร้างสำเร็จในปี 2012 และจะกลายเป็นอาคารสูงที่สุดในทวีปยุโรป ภายในประกอบด้วยสำนักงาน, แฟลต, ภัตตาคาร และ โรงแรม


หอคอยรูปต้นไม้ในเมืองไทชุงของไต้หวัน มีลานชมวิวที่บรรจุก๊าซฮีเลียม ช่วยให้สามารถลอยขึ้นไปตามความสูงของหอได้ หอคอยแห่งนี้จะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า โดยจะมีแผงโซลาร์เซลล์ และ เครื่องเก็บกักน้ำฝน ภายในมีสำนักงาน, ร้านอาหาร และ พิพิธภัณฑ์ให้คนเยี่ยมชม

มาสดาร์ ซิตี้ ในเมืองอาบูดาบี จะเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2020 โดยห้ามนำรถยนต์มาใช้ในเมือง และมีระบบรีไซเคิลน้ำ


สนามกีฬา อัล ฆอร์ สเตเดียม ในกาตาร์ ถูกสร้างขึ้นสำหรับการแข่งขันฟุตบอล เวิลด์ คัพ ในปี 2022 มีทั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องปรับอากาศ ที่จะทำให้อุณหภูมิภายในต่ำกว่า 80 องศาฟาเรนไฮต์ (26 องศาเซลเซียส)

โซจิ โอลิมปิก สเตเดียม ในรัสเซีย เป็นสนามกีฬาถาวรสำหรับกีฬาฤดูหนาวในปี 2014 กำแพงและหลังคาถูกปูด้วยแผ่นคริสตัลที่ช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ และจะเปิดไฟสว่างไสวในเวลากลางคืน


หอคอยลอยน้ำ "ไกร์" (Gyre) เป็นทั้งรีสอร์ตและสถานีวิจัย สามารถล่องลอยข้ามมหาสมุทรได้

อาคาร "ซีสเครเปอร์" (Seascraper) ถูกออกแบบให้สามารถจอดในที่ซึ่งกระแสน้ำไหลแรง เพื่อสร้างพลังงานสะอาด


นครปารีสเริ่มให้สถาปนิกออกแบบอาคารให้มีบรรยากาศร่มรื่นเหมือนชานเมือง


ที่มา :http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2059362

หอเอียงชื่อดังก้องโลก สถาปัตยกรรมแสนมหัศจรรย์











สถาปัตย์มหัศจรรย์ 10 อันดับที่แปลกที่สุด

สถาปัตย์มหัศจรรย์! โลกตะลึง10 ตึกประหลาด

"สถาบันสถาปัตยกรรมแห่งสหรัฐอเมริกา" พยากรณ์ล่าสุดว่า ผลพวงจากสภาพเศรษฐกิจตกต่ำและภาคอสังหาริมทรัพย์ซบเซา จะส่งผลให้ลักษณะการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนในช่วง 2-3 ปีจากนี้ลดการออกแบบหวือหวาลงไปเพื่อประหยัดต้นทุน โดยหันไปเน้นรูปแบบเรียบง่ายและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก

ด้วยเหตุนี้นิตยสารเทคโนโลยีเครื่องยนต์กลไกเล่มดัง "พ็อพพิว ลาร์เมคานิก" จึงตระเวนสรรหาตึกแปลกประหลาดพิสดาร ท้าทายความคิดสร้างสรรค์ด้านสถาปัตยกรรมและแรงโน้มจากทั่วโลกมาให้ได้ยลโฉมกันบางส่วนดังนี้


1. 30 St. Mary Axe (30 เซนต์ แมรี่ แอ็กซ์)
      ตึกระฟ้าเจ้าของสถิติอาคารสูงอันดับ 2 ในมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดทำการปี 2547 มีชื่อเล่นว่า "ตึกแตง" เพราะรูปทรงคล้ายแตง กลมมนทั้งตึก โครงสร้างเต็มไปด้วยกระจก เฉพาะภายนอกติดตั้งกระจกกินพื้นที่ 24,000 ตารางเมตร

 2. The Egg (ดิ เอ้ก)

           อาคารทรงไข่ผ่าครึ่ง ที่ตั้งศูนย์ศิลปะการแสดงเมืองอัลเบนี่ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีโรงละครอยู่ภายใน 2 โรง ความจุรวม 892 ที่นั่ง ยากที่ใครจะเลียนแบบ เพราะมีโครงสร้างรับน้ำหนักซับซ้อนมาก


3. Flintstone House (ฟลินต์สโตน เฮาส์)
         บ้านจัดสรรในเมืองเบอร์ลินเกม รัฐแคลิ ฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สร้างเลียนแบบบ้านในการ์ตูนยอดฮิตในอดีต "มนุษย์หินฟลินต์สโตน" ออกแบบโดย วิลเลียม นิโคลสัน เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน


  4. The Crooked House (เดอะคร้กเก็ดเฮาส์)
          อาคารพาณิชย์ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจเมืองโซพอต ประเทศโปแลนด์ มองดูมีสัดส่วนบิดเบี้ยวสุดๆ ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพบ้านเรือนในหนังสือนิทานภาพสำหรับเด็ก ตรงหลังคาออกแบบตั้งใจให้เหมือนเกล็ดมังกร

 5.) Basket Building (บาสเก็ตบิลดิ้ง)

           สำนักงานใหญ่บริษัทลองกาเบอร์เกอร์ เมืองนิวอาร์ก สหรัฐอเมริกา ประกอบกิจการขายตะกร้า ซึ่งก็คือที่มาของอารมณ์นึกสนุกสร้างตึกเป็นทรงตะกร้านั่นเอง

6.) Guggenheim Museum (กุกเกนไฮม์ มิวเซียม)

           พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ เมืองบิลเบา ประเทศสเปน รังสรรค์โดย แฟรงก์ เกห์รี สถาปนิกชื่อดังระดับโลกชาวแคนาดา ออกแบบให้ดูสับสนวุ่นวาย มองแล้วเดาไม่ออกว่าเส้นสายโครงสร้างจะไปจบตรงไหน

7.) Dancing House (แดนซิ่งเฮาส์)

           "บ้านเต้นระบำ" กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ผลงาน แฟรงก์ เกห์รี สถาปนิกแคนาดา และวลาโด มิลยูนิช เพื่อนสถาป นิก มีชื่อเล่น "จิงเจอร์แอนด์เฟร็ด" ตามที่มีการออกแบบได้แนวคิดจากท่าเต้นพลิ้วไหวคู่กันของ จิงเจอร์ โรเจอร์ส และเฟร็ด แอสแตร์ สองนักเต้นชื่อดัง

8.) Lotus Temple (โลตัสเทมเปิ้ล)
           "วัดดอกบัว" หรือ "โลตัสเทมเปิ้ล" ในกรุง นิวเดลี อินเดีย หนึ่งในศาสนสถานที่มีผู้คนมาเยี่ยมเยือนมากที่สุดในอินเดีย
9.) Cube House (คิวบ์เฮาส์)
           บ้านทรงลูกบาศก์เชื่อมต่อกัน 38 หลังในนครร็อตเทอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ เกิดจากแนวคิดเวลามองหมู่แมกไม้ที่ตั้งตระหง่านอยู่ร่วมกัน

10.) Library of Alexandria (ไลบรารี่ ออฟ อเล็กซานเดรีย)
           ห้องสมุดเมืองอเล็กซานเดรีย อียิปต์ มีความสูง 11 ชั้น ลักษณะอาคารสื่อถึงภาพดวงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ เปรียบได้กับการเข้ามาแสวงหาเพิ่มพูนปัญญา ณ สถานที่แห่งนี้

ความสำเสร็จของสถาปนิกไิทย ดวงฤิทธิ์ บุญนาค