วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สถาปัตยกรรมแปลก



ที่มา: http://www.youtube.com/watch?v=70JZfpahXEo

จัตุรัสแดง


จัตุรัสแดง ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของกรุงมอสโก ตั้งอยู่กลางใจเมืองของมอสโก ประเทศรัสเซีย ทางด้านหน้าจัตุรัสแดงนั้น เป็นที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย สังเกตุได้จากที่พื้นถนนจะมีสัญลักษณ์เป็นวงกลม และภายในวงกลมนี้เองก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปยืนกลางวงกลมนั้นและโยนเศษเหรียญข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลังเพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโกอีกครั้ง

     ชื่อของจัตุรัสแดงอาจจะฟังดูแล้วนึกถึงการนองเลือด แต่จริงๆ แล้วคำว่าจัตุรัสแดงนั้นก็หมายถึงความสวยงาม ความดีงามเท่านั้นลานกว้างของจัตุรัสแดงนี้มีพื้นที่กว้าง 695 เมตร ยาว 130 เมตร ทำหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ต่างๆ ของรัสเซียมาหลายยุคหลายสมัย คล้ายๆ กับสนามหลวงของไทย ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีต่างๆ ของประเทศ เช่น การสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของกองทัพรัสเซียในโอกาสต่างๆ รวมไปถึงการชุมนุมเรียกร้องเดินขบวนของประชาชนด้วยเช่นกัน บริเวณจัตุรัสแดงยังประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รายรอบอีกมากมาย เช่น พระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์รัสเซีย และห้างสรรพสินค้า GUM (ห้างกุม)


     จตุรัสแดงเป็นสถานที่ประกาศข่าวต่อสาธารณะชน และที่ประหารชีวิตทางด้านทิศใต้หน้าวิหารเซนต์บาซิล มีแท่นหินรูปกลมยกพื้นขึ้น มีชื่อว่า " Lopnoe Mesto " เป็นแท่นที่ประทับของพระเจ้าซาร์และนักบวชเพื่อพบกับประชาชนและปราศรัยกับฝูงชนที่เข้ามาเฝ้า

     สีแดง หรือ ดราสนายา ในภาษารัสเซียหมายถึง ความงาม สีแห่งโชคลาภ ความมั่นคง ร่ำรวย ชัยชนะ จตุรัสแดง หรือที่เรียกภาษารัสเซียว่า "คราสนายา ปลอซซาด" เป็นจตุรัสที่สวยงามที่สุดในโลก เป็นสถานที่เก็บศพเลนิน ศาสดาของประเทศสังคมนิยม สร้างด้วยหินแกรนิต และหินอ่อน นับล้านชิ้นตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสก เป็นพื้นที่ลานกว้าง ซึ่งมีบางท่านได้เปรียบเทียบว่า ลานจตุรัสแดงที่กว้างขนาดนี้ คล้ายท้องสนามหลวง จตุรัสแดงนั้นไม่ได้มีความสำคัญแค่ประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเท่านั้น หากเพียงแต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของชนชาติเผ่าพันธุ์ คือ ศูนย์รวมทางจิตวิญญาณทั้งมวลของชาวรัสเซีย ที่ได้มีบทบาทและส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงที่ยื่งใหญ่และสำคัญของบ้านเมือง เกือบจะทุกครั้ง คือความทรงจำที่ผ่านมารุ่นต่อรุ่นที่ชาวรัสเซียสัมผัสได้

ที่มา: http://www.addsiam.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87/878/1_878.html

10 สิ่งปลูกสร้างที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลก

สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ได้นำมาซึ่งสิ่งปลูกสร้างที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายในโลกใบนี้
รูปร่างแปลกๆ การออกแบบยากๆ วัสดุใหม่ และรูปร่างที่แตกต่าง ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมอันทันสมัยในการก่อสร้าง


Cubic Houses, รอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์
Piet Blom มีความคิดเรื่องบ้านลูกบาศก์ในปี 1970 และบางส่วนก็
สร้างขึ้นใน Helmond และเมื่อเมือง Rotterdam เสนอให้เขาสร้างบ้าน 

Dancing Building, ปราก สาธารณะรัฐเชค
Dancing Building เป็นชื่อเล่นของตึก Nationale-Nederlanden ซึ่งอยู่ใจกลาง
เมืองของปราก ออกแบบโดยสถาปนิกเชื้อสาย
โครเอเชีย - เชค ชื่อ Vlado Milunic ร่วมกับชาวแคนาดา Frank Gehry
ตึกนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี 1996 สร้างมาแทนตึกเดิม
ที่พังลงเพราะถูกระเบิดในปี 1945

The Ufo House, Sanjhih, ไต้หวัน
การออกแบบห้องสมุดเป็นรูปหนังสือเป็นเหมือนสิ่งจูงใจให้มาเยี่ยมชมที่ห้อง
สมุดของเมืองแคนซัส และยังเป็นเหมือนตัวแทนของเมืองแคนซัสอีกด้วย

Kansas City Public Library, รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา
การออกแบบห้องสมุดเป็นรูปหนังสือเป็นเหมือนสิ่งจูงใจให้มาเยี่ยมชม
ที่ห้องสมุดของเมืองแคนซัส และยังเป็นเหมือน
ตัวแทนของเมืองแคนซัสอีกด้วย

Ferdinand Cheval Palace หรือ Ideal Palace ประเทศฝรั่งเศส
Ferdinand Cheval Palace ถูกสร้างขึ้นโดยบุรุษไปรษณีย์ใน Hauterives, ฝรั่งเศส มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นหลุมฝังศพของเขาเองแต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ทำ
เช่นนั้น แต่ปัจจุบันก็เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

Forest Spiral Hundertwasser Building, ดาร์มสตัดท์ ประเทศเยอรมนี
Forest Spiral Hundertwasser สร้างขึ้นเมื่อปี 2000 ออกแบบโดย
Friedensreich Hundertwasser สถาปนิกและช่างสีชาวออสเตรีย
อาคารมี 105 ห้อง มีสีสันและเป็นมิตรกับธรรมชาติ

Guggenheim Museum, บิลบาโอ ประเทศสเปน
สร้างโดย Nervion River Guggenheim Museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก
Frank Gehry  ชาวแคนาดา - อเมริกัน มีโครงร่างของอาคารคล้ายเรือ

Baha’i House of Worship หรือ Lotus Temple, เดลี ประเทศอินเดีย
Baha'i House of Worship ที่รู้จักกันในชื่อ Lotus Temple
ถูกสร้างขึ้นในปี 1986  เปิดให้บริการสำหรับคนของทุกศาสนา

Ripley’s Building, น้ำตกไนแองการ่า, รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา
เป็นที่ทราบกันว่าเป็นสถานที่รวบรวมสิ่งแปลก สิ่งที่ไม่น่าเชื่อ สิ่งประดิษฐ์ หนึ่งในอาคารของ Ripley’s Believe It or Not






The Crooked House, โซพอต ประเทศโปแลนด์
เริ่มสร้างและแล้วเสร็จในปี 2003 ออกแบบโดย Jan Marcin Szancer ศิลปินชาวโปร์แลนด์และนักวาดภาพประกอบหนังสือเด็กและ
Per Dahlberg นักวาดภาพชาวสวีเดน




บ้าน Down House

 Upside Down House เป็นโครงการที่สร้างขึ้นโดยนักธุรกิจชาวโปแลนด์และ Daniel Czapiewski ที่สร้างขึ้นในโปแลนด์ที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของ  Szymbark จึงเป็นที่โดดเด่นมากต่อนักท่องเที่ยว เพราะเป็นบ้านหลังเดียวที่ทำกลับหัวเอาหลังคาเป็นฐานของบ้านและเอาตัวฐานของบ้านมาทำเป็นหลังคา เพื่อนๆ ลองดูผลงานของเขากันค่ะว่าน่าสนใจขนาดไหน
เป็นบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเล็ก แต่สามารถทำให้มีนักท่องเที่ยวเขามาได้อย่างล้นหลาม และกลายเป็นจุดท่องเที่ยวไปในตัวด้วย
ผู้ที่สร้างบ้านหลังนี้เป็นนักธุรกิจชาวโปแลนด์และ Daniel Czapiewski

ที่มา: http://www.homedecorthai.com/articles/Home_Down_House-84-1600.html

บ้านกลางทะเลทรายอาริโซน่า

การออกแบบบ้านในทะเลทรายกันค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ใน North Scottsdale เป็นชุมชนภูเขาทะเลทราย Shanholt Residence ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับวิถีการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายแต่ทันสมัยและสง่างามโดยคำนึงถึงแนวทางการออกแบบที่เป็นมารตฐาน  และแสดงถึงสถาปัตยกรรมสิ่งแวดล้อม




ที่มา: http://www.homedecorthai.com/articles/Central_Arizona_desert-84-1550.html

บ้านที่แคบที่สุดในโลก

เป็นสถาปัตยกรรมบ้านที่แคบที่สุด การออกแบบนี้เป็นไอเดียของ Helenita Queiroz Grave Minho เธอได้อาศัยอยู่มีพื้นที่ 1 เมตร กว้าง 10 เมตร  และบ้านของเธอนี้เองที่ทำให้เมืองนี้เป็นจุดท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆ ได้อีกด้วย



สถาปัตยกรรมจากไพ่

 
เป็นผลงานของ Bryan Berg สถาปนิกชาวอเมริกัน ที่ได้ทำผลงานการต่อไพ่ให้เหมือน กับสถาปัตยกรรม Venetian Macau เป็นโรงแรมที่หรูหราและเป็นคาสิโนที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน  ผลงานนี้ใช้เวลาทั้งหมด 44 วัน และใช้ไพ่ทั้งหมด 218,792 ใบ สูง 4,051 ชั้น

เป็นผลงานรังสรรของ Bryan Berg สถาปนิกชาวอเมริกัน
สถาปัตยกรรม Venetian Macau เป็นโรงแรมที่หรูหราและเป็นคาสิโน

ที่มา: http://www.homedecorthai.com/articles/Architecture_of_the_cards-84-1532.html

สถาปัตยกรรมแปลกๆ

เป็นการออกแบบการสร้างอาคารที่ไม่เหมือนใคร เป็นผลงานที่สร้างมาจากภาพถ่ายของวรรณกรรม Filip Dujardin ที่จะมีรูปลักษณะของโครงสร้างอาคารแปลกๆ










ที่มา: http://www.homedecorthai.com/articles/Unusual_architecture-84-1522.html

ทัชมาฮัล เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะที่นี่เป็นสุสานฝังศพของ มุมทัชมาฮัล ราชินีผู้ป็นที่รักยิ่งของ พระเจ้าชาห์เยฮัน อยู่ในเมืองอัคระ บนฝั่งแม่น้ำยมนา ประเทศอินเดีย
        มุมทัชมาฮาล เป็นมเหสีที่พระเจ้าชาห์เยฮันรักมากที่สุด พระนางสิ้นพระชนม์เพราะคลอดโอรสองค์ที่ 15 ซึ่งทำให้พระเจ้าชาห์เยฮัน เศร้าโศกมาก พระองค์จึงสร้างที่ฝังศพที่หญ่โตที่สุดในโลกขึ้นที่ริมแม่น้ำยมนา
        สร้างระหว่างปี พ.ศ. 2173-2191 (ค.ศ. 1630-1648) เสียเวลาสร้างอยู่ 23 ปี ทกส่วนสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์ ตามแบบสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย โดยสถาปนิก อุสตาด ไอสา (Ustad lsa) มีผู้ร่วมสร้างเป็น ผู้ออกแบบ ช่างเขียนลวดลาย ช่างอิฐ ช่างปูน ช่างประดับลวดลายด้วยกระเบื้อง ช่างแกะสลัก ช่างตกแต่งภายใน รวม 20,000 คน วัตถุในการก่อสร้าง คือ หินอ่อนสีขาวจากเมืองมะครานา หินอ่อนสีแดงจากเมืองฟาตีบุระ หินอ่อนสีเหลือง จากฝั่งแม่น้ำนรภัทฑ์ เพชรตาแมวจากกรุงแบกแดด ปะการัง และ หอยมุกจากมหาสมุทรอินเดีย หินเจียรไนสีฟ้าจากเกาะลังขะ เพชรจากเมืองบนทลขัณฑ์ สิ้นเงินค่าก่อสร้าง 50,000,000 เหรียญอเมริกัน หรือ ประมาณ 1,000,000,000 บาท
        ซึ่งได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่าสร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วน และ วิจิตรงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 39 เมตร(130 ฟุต) ตรงกลางมีโดมสูง 60 เมตร(200 ฟุต) มีโดมเล็กๆ เป็นหสูงอยู่ทั้ง 4 มุม ภายในประดับด้วย หินอ่อนสลักฉลุเป็นลวดลายวิจิตรตระการตาแทรกเสริมด้วย พลอยสี ทับทิม และนิล ตรงกลางภายใต้หลังคาโดมใหญ่มีแท่นวางหีบศพที่ทำด้วยหินอ่อน และมีฉากหินอ่อนฉลุลายงามเป็นพิเศษกั้นอีกชั้นหนึ่ง แต่ศพจริงๆ ไม่ได้บรรจุอยู่ในหีบ หากฝังอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินตรงกับที่วางหีบศพนั้น ภายหลังที่สร้างทัชมาฮัล ซาร์เจฮันใฝ่ฝันที่จะสร้าง ที่ฝังศพตัวเองที่ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามจะเป็นหินอ่อนสีดำล้วนๆ แต่ลูกชายเกรงเงินจะหมดจะไม่มีใช้ เมื่อขึ้นครองราชสมบัติจึงจับพ่อขังอยู่ได้ 7 ปี ก็สิ้นพระชนม์ ประมาณปี พ.ศ.2209 (ค.ศ.1666) แล้วเอาศพไปฝังข้างศพแม่ ส่วนนายช่างผู้ออกแบบถูกสั่งให้ประหาร ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีโอกาสออกแบบสิ่งก่อสร้างใด ๆ ที่สวยกว่าได้
        ทัชมาฮัลเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าสร้างขึ้นมาได้อย่างเหมาะสมสวยงามน่ามหัศจรรย์

ที่มา: http://www.wonder7th.com/3taj_mahal.htm

หอไอเฟล


หอไอเฟล เป็นสถาปัตยกรรมอีกชิ้นหนึ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความแปลกใหม่และทันสมัย  มีความงดงามและเป็นศิลปกรรมที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์

หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรำลึกถึงการปฏิวัติประชาชนที่มีอายุครบรอบ 100 ปี ใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 71 ล้านฟรังค์ ผู้ที่ออกแบบหอไอเฟลคือ นาย กุสตาพ เอฟเฟล

หอไอเฟลแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากโครงเหล็กขนานใหญ่มีความสูงถึง 300 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนาน 2 ปี  สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2432 จัดเป็นหอที่มีการออกแบบการก่อสร้างที่มีความผิดแผกแตกต่างจากการก่อสร้างในอดีตเป็นอย่างมาก ชั้นบนของหอไอเฟลจะมีอาคาร 3 ชั้น  ไว้คอยบริการอาหารและของที่ระลึกให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพที่งดงามจากกรุงปารีสได้จากชั้นบนสุดของอาคารที่เปิดโล่งเอาไว้

ปัจจุบัน หอไอเฟล เป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้ทุกคนนึกถึงประเทศฝรั่งเศสเพราะสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่นั้น  เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความแปลกใหม่และไม่มีใครเหมือน แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย  แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่สามารถจะเข้ามาทดแทน หอไอเฟล

ที่มา: http://www.itea.5u.com/My%20Webs/Eiffel%20Tower.htm

มหาวิหารมิลาน เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน
     ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ดังนั้นหากจะมาเที่ยวเมืองมิลาน ก็ต้องเริ่มที่ดูโอโมนี่แหละ


ดูโอโมแห่งมิลาน สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่อลังการมากอันแสดงถึง ความเชื่อศรัทธาในคริสต์ศาสนา และความยิ่งใหญ่ของพระศาสนจักร ในการเผยแผ่ความเชื่อคริสตชน ในเขตลอมบาเดีย ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี ถือเป็นอาสนวิหารแม่ของอัครสังฆมณฑลมิลาน ซึ่งเป็นอัครสังฆมณฑลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
     เฉพาะอัครสังฆมณฑลมิลานแห่งเดียวก็ใหญ่กว่าพระศาสนจักรไทยหลายเท่า ทั้งนี้ก็เพราะว่า อัครสังฆมณฑลมิลานมีจำนวนคริสตชนมากถึง 5,191,510 คน มีวัดทั้งหมด 1,108 วัด มีพระสงฆ์ทั้งหมด 2,308 องค์ แยกเป็นพระสงฆ์สังฆมณฑล 2,066 องค์ พระสงฆ์นักบวช 242 องค์ มีสังฆานุกรถาวร 96 องค์ และสังฆนุกรที่จะบวชเป็นพระสงฆ์ 23 องค์ แบ่งออกเป็น 7 เขตปกครอง
     แต่ละเขตมีพระสังฆราช ( ผู้ช่วย) ทำหน้าที่ปกครอง ประมุขคนปัจจุบันคือ พระคาร์ดินัล ดิโอนีจิ เต็ตตามานซิ ( Cardinal Dionigi Tettamanzi ) (ที่มา : Arcidiocesi di Milano: I MINISTRI ORDINATI Annuario 2008. Milano: Centro Ambrosiano, 2008)
     ดูโอโมแห่งมิลาน ถือเป็นอาสนวิหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ยาว 148 เมตร กว้าง 88 เมตร จะเป็นรองก็แต่มหาวิหารนักบุญเปโตรที่กรุงโรมเท่านั้น เริ่มสร้างในสมัย พระอัครสังฆราชอันโตนิโอ ดาซาลุซโซ ( Antonio da Saluzzo ) ในปี ค.ศ. 1386 ภายใต้ การออกแบบและควบคุมของ ซิโมเน ดา ออร์เซนีโก ( Simone da Orsenigo ) ซึ่งเป็นวิศวกรคนแรก โดยการสนับสนุนของ เจียน กัลเลอัซโซ วิสกอนติ ( Gian Galeazzo Visconti ) และเงินบริจาคของคริสตชน
     การก่อสร้างได้ดำเนินเรื่อยมาอย่างยาวนานแบบไม่มีวันสิ้นสุด ผ่านยุคสมัยและเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย จนกระทั่งวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1965 ซึ่งเป็นวันที่ประตูบานสุดท้ายของอาสนวิหารแล้วเสร็จและเปิดใช้ จึงถือเป็นวันสิ้นสุดของการก่อสร้างที่ยาวนานและยิ่งใหญ่อลังการของอาสนวิหารแห่งนี้ รวมระยะเวลาในการ ก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ความโดดเด่นของดูโอโม อยู่ที่ยอดแหลมบนหลังคา บนยอดใหญ่ตรงกลางมีพระรูปแม่พระ ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ขนาดความสูง 4 เมตร ซึ่งเรียกกันว่า มาดูนีนา (Madunina)
     เนื่องจากตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตร จึงทำให้มองดูเล็กนิดเดียว รายล้อมด้วยยอดแหลมอีก 135 ยอด ทำให้อาสนวิหารดูสง่าและแปลกตา หากไม่กลัวเหนื่อยสามารถไต่บันได 158 ขั้น ขึ้นไปบนหลังคาเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองมิลานได้ แต่ต้องเสียค่าขึ้นชม 5 ยูโร แต่หากใช้ลิฟต์เสีย 7 ยูโร ด้านหน้าของดูโอโมประดับประดาด้วยรูปปั้นและรูปสลักหินอ่อนที่ประณีตบรรจง

ที่มา: http://travel.thaiza.com/detail_136782.html

มหาวิหารซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย

มหาวิหารซาเกร็บ
 มหาวิหารซาเกร็บ (Zagreb Cathedral) มหาวิหารสังกัดโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองซาเกร็บ สร้างขึ้นในแบบสไตล์นีโอโกธิค ในช่วงศตวรรษที่ 11 ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโครเอเชีย และยังเป็นศูนย์กลางของคริสต์จักรในประเทศโครเอเชียอีกด้วย

ที่มา: http://travel.thaiza.com/%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2/199884/

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บ้าน ญี่ปุ่น

การออกแบบบ้านในยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วสถาปนิกมักคำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ใช้สอย และต้นทุนการสร้างอย่างประหยัด สำหรับแนวทางของเว็บไซต์ “บ้านไอเดีย” เรามักนำแบบบ้านจากต่างประเทศมาให้ชมกัน เนื่องจากลักษณะการออกแบบที่แหวกแนว เป็นไปได้ทุกอย่าง ไม่มีขีดจำกัด ทางทีมงานหวังเพียงว่า สถาปัตยกรรมเหล่านี้ ได้เป็นแรงจูงใจให้กับผู้ที่คิดจะสร้างบ้าน ได้ทราบว่า การสร้างบ้านนั้น ไม่ได้มีแบบที่ตายตัว มันเป็นไปได้ทุกอย่าง อยู่ในไอเดียที่สร้างสรรค์ ยิ่งนอกกรอบ ยิ่งน่าสนใจ และหากออกแบบมาได้อย่างลงตัว คุ้มค่า สิ่งนี้ยิ่งตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี บ้านหลังนี้ ออกแบบโดย สถาปนิกชาวญี่ปุ่น MYZ House No.555 เป็นที่ทราบกันดี ประเทศญี่ปุ่นนั้น พื้นที่น้อย แนวทางการออกแบบต้องคุ้มค่ากับพื้นที่ให้มากที่สุด
การออกแบบภายใน แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ที่เป็นไปอย่างเรียบง่าย ง่ายอย่างแท้จริง พวกเขาใช้เพียงกล่องสี่เหลี่ยม ที่ไม่ต้องมีผนังกั้นให้วุ่นวาย ทุกห้องรวมไว้ในหนึ่งเดียวเท่านั้น แต่ถึงแม้ไม่มีผนังกั้น การตกแต่งภายในก็ยังคงรักษาสัดส่วนไว้ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า เป็นไอเดียการออกแบบที่ฉีกกฏเกณฑ์ทฤษฎีต่างๆ ส่งผลให้ต้นทุนในการก่อสร้างลดลงไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ความเป็นอยู่ในบ้านหลังนี้ กับครอบครัวเล็กๆ ก็จัดได้ว่าเหมาะสมและพอเพียง


ที่มา: http://www.banidea.com/mini-house-japan-style-idea/

บ้านแบบ ญี่ปุ่น


ความคิดนอกกรอบ สร้างสรรค์สถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่

การออกแบบบ้านในยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วสถาปนิกมักคำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ใช้สอย และต้นทุนการสร้างอย่างประหยัด สำหรับแนวทางของเว็บไซต์ “บ้านไอเดีย” เรามักนำแบบบ้านจากต่างประเทศมาให้ชมกัน เนื่องจากลักษณะการออกแบบที่แหวกแนว เป็นไปได้ทุกอย่าง ไม่มีขีดจำกัด ทางทีมงานหวังเพียงว่า สถาปัตยกรรมเหล่านี้ ได้เป็นแรงจูงใจให้กับผู้ที่คิดจะสร้างบ้าน ได้ทราบว่า การสร้างบ้านนั้น ไม่ได้มีแบบที่ตายตัว มันเป็นไปได้ทุกอย่าง อยู่ในไอเดียที่สร้างสรรค์ ยิ่งนอกกรอบ ยิ่งน่าสนใจ และหากออกแบบมาได้อย่างลงตัว คุ้มค่า สิ่งนี้ยิ่งตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี บ้านหลังนี้ ออกแบบโดย สถาปนิกชาวญี่ปุ่น MYZ House No.555 เป็นที่ทราบกันดี ประเทศญี่ปุ่นนั้น พื้นที่น้อย แนวทางการออกแบบต้องคุ้มค่ากับพื้นที่ให้มากที่สุด

บ้านป่าในญี่ปุ่น

บ้านป่าในญี่ปุ่น
เป็นโครงสร้างการออกแบบของ Ando Studio ที่เขาได้ออกแบบบ้านที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมในป่าไม้ที่เป็นธรรมชาติสุดๆ ซึ่งเป็นการเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่พักผ่อนในแบบที่ต้องการจะหนีชีวิตในเมืองที่มีความวุ่นวายและเสียงดัง มาอยู่ในที่ที่สงบแต่การตกแต่งและออกแบบภายในนั้นทันสมัยใช่ย่อย
เป็นบ้านพักตากอากาศที่ติดธรรมชาติจริง เพราะล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวขจี ทุกห้องจะติดกระจกใสเพื่อให้สามารถมองเห็นบรรยากาศธรรมชาติด้านนอกได้อย่างผ่อนคลาย



ที่มา: http://www.homedecorthai.com/articles/Japanese_forest_home-84-1683.html

สถาปัตยกรรมญี่ปุ่น



ที่มา:http://www.youtube.com/watch?v=sau6en4rmM8

บ้านเปลือกหอย

สไตล์การออกแบบ :โมเดอริ์น

      บ้านหลังนี้ได้ถูกออกแบบ มาอย่างสวยงามโดยอาศัย รูปแบบฟอร์มของอาคารที่เป็นลักษณะแผ่นบาง ดัดโค้งไปโค้งมาพับเป็นลักษณะเปลือกหอย ผสมกลมเกลียวกันกับบรรยากาศโดยรอบ
 สังเกตุได้ว่าผู้ออกแบบได้เจาะช่องอาคาร และปล่อยช่องว่างบางส่วนไว้สำหรับรับแสง ได้อย่างสวยงาม สามารถใช้สอยได้จริงและยังทำให้อาคารดูโปร่ง ไม่อึดอัด แถมยังเป็นจุดเด่นของอาคารได้อีกด้วย
 
    ที่มา: http://www.bansuy.com/2009/07/blog-post_478.html

สิ่งปลูกสร้าง ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

10 สุดยอดสถาปัตยกรรมจีน

10 สุดยอดสถาปัตยกรรมจีน


10 สุดยอดสถาปัตยกรรมจีน ต้อนรับโอลิมปิค 2008

1. สนามบินนานาชาติปักกิ่ง




สนามบินโฉมใหม่ที่มีขนาดกว่า 1 ล้านตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเพนตากอนของสหรัฐอเมริกานี้ เป็นฝีมือของผู้ออกแบบสนามบินเช็กแลพก๊อกของฮ่องกงด้วย นั่นคือ Foster & Partners สถาปนิกนักเดินทาง ที่เข้าถึงจิตใจผู้โดยสาร ด้วยการออกแบบทางเดินแต่ละส่วนให้สั้นที่สุด ฟอสเตอร์ ได้แบ่งอาคารที่กว้างขว้างใหญ่โตของสนามบินนานาชาติปักกิ่งออกเป็น 2 ข้าง ทอดตัวจากทิศใต้ไปสู่ทิศตะวันออก เพื่อช่วยลดไอร้อนจากแสงอาทิตย์ แต่ติดสกายไลท์ให้แสงแดดละมุนละไมได้ฉายส่องเข้ามา พร้อมทั้งใช้นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนภายในตัวอาคาร กำหนดสร้างเสร็จปี 2007

            นอกจากนี้ จีนยังมีแผนที่จะสร้างสนามบินใหม่ถึง 108 แห่งระหว่างปี 2004-2009 ซึ่งรวมทั้งสนามบินนานาชาติปักกิ่งแห่งนี้ ที่จะเปิดให้บริการปลายปี 2007 เพื่อต้อนรับโอลิมปิก 2008 โดยจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 43 ล้านคนในปีแรก และเพิ่มเป็น 55 ล้านคนในปี 2015




2. เดอะคอมมูน – กรุงปักกิ่ง






เดอะคอมมูน (The Commune) เกิดขึ้นตามความตั้งใจของคู่รักนักพัฒนาเรียลเอสเตท จางซิน และพานซื่ออี๋ ที่ลงทุนควักกระเป๋าให้นักสถาปัตย์ชั้นนำชาวเอเชีย 12 คน คนละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเนรมิตเฮาส์คอมเพล็กซ์หรูที่มีกลิ่นอายกำแพงเมืองจีนขึ้น

            ปัจจุบัน เดอะคอมมูน เปิดให้บริการแล้วในส่วนที่เป็นโฮเทลบูติค ภายใต้การบริหารของเครือโรงแรมเคมปินสกี้ จากเยอรมนี ซึ่งยังมีโครงการส่วนต่อขยายเพิ่มเติมอีก เฟสแรกสร้างเสร็จเมื่อ 2002 และทั้งโครงการจะเสร็จสิ้นในปี 2010


3. ศูนย์กลางการเงินของโลกที่เซี่ยงไฮ้


ศูนย์กลางการเงินแห่งใหม่ของโลก กำลังจะอุบัติขึ้นที่มหานครเซี่ยงไฮ้ ที่เขตการเงินหลู่เจียจุ้ย ในเขตผู่ตง ในรูปโฉมของตึกกระจกสูงเสียดฟ้า 101 ชั้น

            Kohn Pedersen Fox Architects ผู้ออกแบบเล่าว่า การสร้างให้ตึกต้านทานแรงลมได้ ถือเป็นความท้าทายของงานนี้ ในที่สุด จึงได้ออกแบบให้ยอดตึกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมเจาะช่องตรงชั้นที่ 100 ซึ่งนอกจากจะปรับเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในโลกแล้ว ยังสามารถบรรเทาแรงลม ลดการแกว่งตัวไปมาของตัวตึกได้ด้วย กำหนดสร้างเสร็จปี 2008





สระว่ายน้ำแห่งชาตินี้ สร้างขึ้นสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 โดยมีรูปลักษณ์เหนือจินตนาการคล้าย “ก้อนน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่” ซึ่ง PTW and Ove Arup ออกแบบโดยใช้วัสดุเทฟลอนทำเป็นโครงร่าง เน้นใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยจะนำมาใช้เดินเครื่องกรองน้ำเสียของสระน้ำที่ใช้เติมในสระจะถูกกักเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ฝั่งไว้ใต้ดิน นอกจากนั้น เพื่อให้ดูเหมือนน้ำที่สุด สถาปนิกยังใช้เทคโนโลยีจากงานวิจัยของนักฟิสิกส์จาก Dublin’s Trinity College ที่สามารถทำให้กำแพงอาคารดูเหมือนฟองน้ำที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะทำสระว่ายน้ำแห่งแดนมังกรนี้ดูดีเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังสามารถต้านทานกับแรงสั่นสะเทือนอันเกิดจากแผ่นดินไหวได้ด้วย กำหนดเสร็จปี 2008

5. สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งชาติ (CCTV) – นครปักกิ่ง






 อาคารสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี มีรูปลักษณ์ที่แหวกแนวไปจากตึกระฟ้าทั่วไป โดยเกิดจากสองอาคารที่ตั้งมุมฉากต่อเข้าหากัน มองดูเหมือนอุโมงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยกระจายแรงลมที่ปะทะกับตึกได้เป็นอย่างดี ตึกใหม่นี้ออกแบบโดย Rem Koolhass และ Ole Scheeren ส่วนวิศวกรผู้คุมงานก่อสร้างคือ Ove Arup กำหนดสร้างเสร็จปี 2008

6. Linked Hybid – นครปักกิ่ง



  สถาปัตยกรรมแห่งที่อยู่อาศัยสมัยใหม่ Linked Hybid เป็นที่ตั้งของบ้าน 2,500 หลัง อพาร์ทเม้นท์ 700 ห้อง บนเนื้อที่ขนาด 1.6 ล้านตารางฟุต ถือเป็นตึกใหญ่สุดในโลกที่มีใช้ระบบชีวภาพในการทำความเย็นและให้ความอุ่น เพื่อรักษาอากาศทั้ง 8 ตึกให้คงที่ ในชั้นที่ 20 สร้างเป็นวงแหวน ‘บริการ’ ที่เชื่อมต่อกันทุกตึก ครบครันด้วยบริการต่างๆ ทั้งซักผ้ายันร้านกาแฟ

            Steven Holl และ Li Hu ยังออกแบบให้ ฝั่งท่อน้ำสองสายลึกลงไปใต้ดิน 100 เมตร สำหรับให้น้ำไหลเวียน ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องกระจายความร้อน และเครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่ ที่ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าทำน้ำเดือดหรือแอร์ทำความเย็น ขณะเดียวกัน ยังมีระบบบำบัดน้ำเสีย ที่จะรวบรวมน้ำจากห้องครัวและอ่างน้ำทั่วอาคาร มาหมุนเวียนใช้ใหม่ในห้องส้วมกำหนดสร้างเสร็จปี 2008

7. เมืองเศรษฐกิจตงถัน – เจียงซู





เมืองเศรษฐกิจแห่งใหม่ของแดนมังกรอยู่ระหว่างวางแผน คาดว่าเฟสแรกจะเสร็จปี 2010 ออกแบบและพัฒนาโดย ซ่างไห่ อินตัสเทรียล คอร์ป ที่คาดว่าจะมีขนาดเทียบเท่ากับเกาแมนฮัตตัน ตั้งอยู่บนเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจีน กลางลำน้ำฉางเจียง (แยงซีเกียง) ใกล้กับมหานครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2040

            อย่างไรก็ตาม เฟสแรกของโครงการนี้ จะเรียบร้อยก่อนที่งานเอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้จะเปิดฉากขึ้นในปี 2010 ซึ่งจะมีประชากรราว 50,000 คน เข้าอยู่อาศัยที่นี้ จากนั้นอีก 5 ปี ระบบพิเศษต่างๆ จะเริ่มใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบจัดการน้ำเสีย และการหมุนเวียนพลังงานมาใช้ใหม่ พร้อมด้วยถนนสายใหญ่ที่จะเชื่อตรงสู่นครเซี่ยงไฮ้อย่างสะดวกสบาย

8. สนามกีฬาโอลิมปิก - นครปักกิ่ง


สนามกีฬาหลายแห่งในโลก ออกแบบโดยเดินตามรอยสนามกีฬาชื่อดังของโลก โคลิเซี่ยมแห่งโรม แต่สนามกีฬานานาชาติของ Herzog & de Meuron ในปักกิ่งนี้พยายามที่จะคิดออกแบบใหม่ให้เอื้ออำนวยต่อสิ่งแวดล้อมปัจจุบันมากขึ้น
สถาปนิกจากสวิสเซอร์แลนด์ Herzog & de Meuron ต้องการที่จะช่องระบายอากาศตามธรรมชาติ ในสนามกีฬาโครงสร้าง 91,000 ที่นั่ง อาจถือได้ว่า เป็นสนามกีฬาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้

            สนามกีฬาดังกล่าวซึ่งมีกำหนดเสร็จปี 2008 จะเป็นที่ซึ่งใช้จัดพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันโอลิมปิก 2008 มีลักษณะภายนอกคล้ายกับ "รังนก" ที่มีโครงตาข่ายเหล็กสีเทาๆเหมือนกิ่งไม้ ห่อหุ้มเพดานและผนังอาคารที่ทำด้วยวัสดุโปร่งใส อัฒจันทร์มีลักษณะรูปทรงชามสีแดง ซึ่งดูคล้ายกับพระราชวังต้องห้ามของจีน ภาพโครงสร้างของสนามกีฬาแห่งนี้ จึงดูคล้ายพระราชวังสีแดง ที่อยู่ภายในรั้วกำแพงสีเทาเขียว ซึ่งให้กลิ่นอายงดงามแบบตะวันออก สำหรับบันไดภายในสนามกีฬาถูกสร้างให้กลมกลืนกับโครงตาข่าย ซึ่งให้ภาพลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือเอกภาพ

9. สะพานตงไห่ – เชื่อมเซี่ยงไฮ้ กับ เกาะหยังซัน

  สะพานข้ามทะเลแห่งแรกของจีน ซึ่งเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเดือนธันวาคมปี 2005 สะพานดังกล่าวเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง ใช้เงินลงทุนราว 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนโครงสร้างหลักมีความยาว 32.5 กิโลเมตร กว้าง 31.5 เมตร มีทางรถวิ่ง 6 เลน และเพื่อความปลอดภัยในการรับมือกับพายุไต้ฝุ่นและคลื่นลมแรง สะพานตงไห่ถูกออกแบบให้เป็นรูปตัวเอส (S) เชื่อมจากอ่าวหลู่หูในเขตหนันฮุ่ยเมืองเซี่ยงไฮ้ ข้ามอ่าวหังโจว ไปยังเกาะเสี่ยวหยังซันในมณฑลเจ้อเจียง ที่ได้วางแผนไว้ให้เป็นท่าเรือการค้าเสรีแห่งแรกของจีน (และจะเป็นท่าคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก) ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2010

10. โรงละครแห่งชาตินครปักกิ่ง

ตั้งอยู่กลางนครปักกิ่ง ใกล้กับจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีเนื้อที่ 490,485 ตารางฟุต มีกำหนดเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 2008 โครงสร้างภายนอกประกอบขึ้นจากกระจกผสมไทเทเนี่ยม ดูคล้ายกับทะเลสาบ

ข้อมูลจาก :  Forward Mail



ที่มา;  http://guru.sanook.com/pedia/topic/10_%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/