วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

มหาวิหารมิลาน เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน
     ลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์ พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้า คือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ และเป็นที่พบปะของผู้คน รอบๆดูโอโมคือศูนย์รวมร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ดังนั้นหากจะมาเที่ยวเมืองมิลาน ก็ต้องเริ่มที่ดูโอโมนี่แหละ


ดูโอโมแห่งมิลาน สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่อลังการมากอันแสดงถึง ความเชื่อศรัทธาในคริสต์ศาสนา และความยิ่งใหญ่ของพระศาสนจักร ในการเผยแผ่ความเชื่อคริสตชน ในเขตลอมบาเดีย ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี ถือเป็นอาสนวิหารแม่ของอัครสังฆมณฑลมิลาน ซึ่งเป็นอัครสังฆมณฑลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
     เฉพาะอัครสังฆมณฑลมิลานแห่งเดียวก็ใหญ่กว่าพระศาสนจักรไทยหลายเท่า ทั้งนี้ก็เพราะว่า อัครสังฆมณฑลมิลานมีจำนวนคริสตชนมากถึง 5,191,510 คน มีวัดทั้งหมด 1,108 วัด มีพระสงฆ์ทั้งหมด 2,308 องค์ แยกเป็นพระสงฆ์สังฆมณฑล 2,066 องค์ พระสงฆ์นักบวช 242 องค์ มีสังฆานุกรถาวร 96 องค์ และสังฆนุกรที่จะบวชเป็นพระสงฆ์ 23 องค์ แบ่งออกเป็น 7 เขตปกครอง
     แต่ละเขตมีพระสังฆราช ( ผู้ช่วย) ทำหน้าที่ปกครอง ประมุขคนปัจจุบันคือ พระคาร์ดินัล ดิโอนีจิ เต็ตตามานซิ ( Cardinal Dionigi Tettamanzi ) (ที่มา : Arcidiocesi di Milano: I MINISTRI ORDINATI Annuario 2008. Milano: Centro Ambrosiano, 2008)
     ดูโอโมแห่งมิลาน ถือเป็นอาสนวิหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ยาว 148 เมตร กว้าง 88 เมตร จะเป็นรองก็แต่มหาวิหารนักบุญเปโตรที่กรุงโรมเท่านั้น เริ่มสร้างในสมัย พระอัครสังฆราชอันโตนิโอ ดาซาลุซโซ ( Antonio da Saluzzo ) ในปี ค.ศ. 1386 ภายใต้ การออกแบบและควบคุมของ ซิโมเน ดา ออร์เซนีโก ( Simone da Orsenigo ) ซึ่งเป็นวิศวกรคนแรก โดยการสนับสนุนของ เจียน กัลเลอัซโซ วิสกอนติ ( Gian Galeazzo Visconti ) และเงินบริจาคของคริสตชน
     การก่อสร้างได้ดำเนินเรื่อยมาอย่างยาวนานแบบไม่มีวันสิ้นสุด ผ่านยุคสมัยและเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย จนกระทั่งวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1965 ซึ่งเป็นวันที่ประตูบานสุดท้ายของอาสนวิหารแล้วเสร็จและเปิดใช้ จึงถือเป็นวันสิ้นสุดของการก่อสร้างที่ยาวนานและยิ่งใหญ่อลังการของอาสนวิหารแห่งนี้ รวมระยะเวลาในการ ก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ความโดดเด่นของดูโอโม อยู่ที่ยอดแหลมบนหลังคา บนยอดใหญ่ตรงกลางมีพระรูปแม่พระ ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ขนาดความสูง 4 เมตร ซึ่งเรียกกันว่า มาดูนีนา (Madunina)
     เนื่องจากตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตร จึงทำให้มองดูเล็กนิดเดียว รายล้อมด้วยยอดแหลมอีก 135 ยอด ทำให้อาสนวิหารดูสง่าและแปลกตา หากไม่กลัวเหนื่อยสามารถไต่บันได 158 ขั้น ขึ้นไปบนหลังคาเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองมิลานได้ แต่ต้องเสียค่าขึ้นชม 5 ยูโร แต่หากใช้ลิฟต์เสีย 7 ยูโร ด้านหน้าของดูโอโมประดับประดาด้วยรูปปั้นและรูปสลักหินอ่อนที่ประณีตบรรจง

ที่มา: http://travel.thaiza.com/detail_136782.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น